มีเรื่องเล่าว่า ลิงตัวหนึ่งในประเทศอินเดีย ชอบแอบไปขโมยผลไม้ในสวนกินเป็นประจำ ชาวสวนจึงคิดหาวิธีจับลิง โดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็ก ๆ ไว้พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้ แล้วนำถั่วซึ่งเป็นของโปรดของลิงมาใส่ไว้เป็นเหยื่อล่อ วันหนึ่งเมื่อลิงมาที่สวนและเห็นถั่วอยู่ในกล่องก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบกำเอาถั่ว แต่พอจะดึงมือออกมาก็ติดฝากล่อง เพราะมือที่กำอยู่นั้นใหญ่กว่ารูที่เจาะเอาไว้ ลิงพยายามดึงเท่าไรก็ไม่ออก พอถูกชาวสวนไล่จับก็ปีนขึ้นต้นไม้ไม่ได้ เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว สุดท้ายก็ถูกจับและฆ่าตาย
หากจะนำเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับคนเรา ก็จะพบว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากได้อยากมี หรือใฝ่ฝันอยากจะเป็นจนถึงกับยึดเอาไว้อย่างเหนียวแน่นนั้น เป็นสาเหตุสำคัญแห่งความทุกข์ได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าคลายความยึดมั่นจากสิ่งที่อยากหรือสิ่งที่ได้ลงเสียบ้าง ทุกข์โศกก็จะลดน้อยถอยลง วิธีปฏิบัติผู้รู้ได้แนะนำไว้ว่า....
เมื่อได้สิ่งใดมา ก็ให้บอกกับตนเองก่อนว่า สิ่งนี้ไม่ทนไม่ทาน อยู่กับเราไม่ได้นาน วันหนึ่งถ้ามันไม่จากเรา เราก็ต้องจากมัน การพิจารณาอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ จะช่วยคลายความยึดมั่นถือมั่นลงได้ และเป็นสิ่งควรปฏิบัติ เพราะช่วยแก้ปัญหาชีวิตได้ ไม่ว่าจะความทุกข์เฉพาะหน้าหรือปัญหาระยะยาว
ลิงตามที่กล่าว หากมันเฉลียวใจสักหน่อย ก็เพียงแค่คลายมือที่กำไว้ออกเท่านั้น มันก็หนีรอดแล้ว แต่เพราะต้องการจะเอาถั่วให้ได้ไม่ยอมปล่อยนั่นเอง สุดท้ายจึงจบชีวิต ฉันใดก็ฉันนั้น ความทุกข์ในชีวิตก็คล้ายคลึงกัน บางครั้งเพียงแต่เราปล่อยวางลงบ้างเท่านั้น ก็สามารถออกจากปัญหาได้อย่างคิดไม่ถึง ดังคำกล่าวที่ว่า “ถ้าปล่อยก็ว่าง ถ้าวางก็เบา ถ้าเอาก็หนัก” ลองทำดูก็จะประจักษ์ด้วยตัวเอง
....ติดตามนิทานธรรมะในแบบนิทานสั้นๆ ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิต
ในตอนต่อไปกับ .... นิทานธรรมะบล็อก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น