แนะนำ! บทความธรรมะอ่านมากที่สุดตอนนี้

ธรรมะสอนใจ ตอน มองทางบวก

ธรรมะสอนใจ ตอน มองทางบวก

ธรรมะสอนใจ ตอน มองทางบวก ... เมื่อเข้าสู่หน้าร้อนจะสังเกตเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น อากาศก็ร้อนอบอ้าวขึ้น ใบไม้มักจะเหี่ยวเฉาและร่วงหล่นสู่พื้นดิน แม้จิตใจของคนก็ดูเหมือนจะหงุดหงิดง่าย สมาธิสั้นและทำงานได้น้อย โรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร และโรคพิษสุนัขบ้า เป็นต้น รวมถึงอัคคีภัยก็มักเกิดขึ้นในหน้าร้อนนี้เช่นกัน เรียกว่าเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล
        ขึ้นชื่อว่าปัญหา ท่านสอนให้มองในลักษณะเป็นคู่ปรับกัน เช่น มีร้อนก็มีเย็นเป็นเครื่องแก้ มีมืดก็มีสว่างแก้ เป็นต้น การมองในลักษณะนี้ ทำให้ผู้มองเกิดสติปัญญา เกิดกำลังใจที่จะข้ามปัญหานั้นไปให้จงได้ และปัญหาใดที่แก้ไขด้วยสติปัญญาแล้ว ปัญหานั้นมักจะสงบระงับอย่างถาวรเสมอ แต่หากใครมองเป็นอย่างอื่นจากนี้ เช่น มองว่าเป็นความโชคร้าย เป็นความอาภัพของชีวิต เป็นต้นแล้ว โอกาสที่จะออกจากปัญหาก็จะไม่มีทางเริ่มขึ้นได้ ยิ่งกว่านั้นอาจกลายเป็นคนที่จำนนต่อปัญหาไปเลยก็มี การมองในลักษณะคู่ปรับนี้ จึงเป็นการมองในทางบวกนั่นเอง เป็นวิธีที่ทำวิกฤติให้เป็นโอกาส ซึ่งท่าน ว. วชิรเมธี แนะนำไว้ เช่น เมื่อเวลาเจองานหนักก็ให้บอกตัวเองว่านี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ เวลาเจอปัญหาซับซ้อนให้บอกตัวเองว่านี่คือโอกาสหรือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ เป็นต้น

ธรรมะสอนใจ เรื่อง ภาษาสามัคคี

นิทานก่อนนอน เรื่อง ภาษาสามัคคี

ธรรมะสอนใจ เรื่อง ภาษาสามัคคี
      นายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงของไทยท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า การพูดจาทำความเข้าใจกันนั้น อย่าเพียงแต่พูดด้วยเหตุผล แต่ให้พูดด้วยความรักต่อกัน ประโยคสั้น ๆ นี้น่าคิดมาก หากจะจำกัดความการพูดด้วยความรัก ก็น่าจะหมายถึง วจีสุจริต คือไม่พูดเท็จ ไม่ส่อเสียดยุแยงตะแคงรั่ว ไม่หยาบคาย ไม่เพ้อเจ้อไร้สาระเลื่อนลอย และที่สำคัญก็คือ พูดออกจากดวงจิตที่มีเมตตาหวังดีต่อกัน ที่ว่าต้องพูดด้วยความรักต่อกันนั้น ก็เพราะคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจในคำพูดมากกว่าเหตุผล หากใครสามารถพูดให้พึงพอใจได้ ก็พร้อมที่จะสมัครสมานสามัคคีด้วย และถ้าพูดมีเหตุผลด้วย ก็นับว่าดีสมบูรณ์แบบ แต่การพูดที่เอาแต่เหตุผลอย่างเดียวโดยไม่มีความเมตตาหวังดีต่อกัน บางครั้งก็ยุติปัญหาไม่ได้

ธรรมะสอนใจ ตอน ภาพลวงตา

นิทานก่อนนอน ตอน ภาพลวงตา

ธรรมะสอนใจ ตอน ภาพลวงตา
      คนที่ไม่อยากเข้าวัด รับศีล หรือฟังเทศน์ เป็นต้น ย่อมมีเหตุผลต่าง ๆ กัน เหตุผลประการหนึ่งก็คือ คิดว่าเป็นเรื่องโบราณ ไม่ทันสมัย ไม่เหมาะแก่ตัวเอง แต่ก็น่าเชื่อได้ว่า ความคิดชนิดนี้ก็น่าจะมีมานานนักหนาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาคิดได้กันในบัดนี้ คือคนโบราณเมื่อร้อยปีพันปีก่อนก็ต้องมีส่วนหนึ่งที่คิดอย่างนี้เช่นกัน จึงน่าสงสัยว่า เหตุใดความคิดนี้จึงไม่เป็นความคิดที่ตกยุค ล้าสมัยสำหรับผู้นั้นไปด้วย

       ความจริงในเรื่องนี้ก็คือว่า หลักศีลธรรมมีแต่ทำให้คนทันสมัย เช่น "ความสำรวม" ซึ่งเป็นหัวข้อที่ฟังชื่อแล้วน่าจะคร่ำครึสุด ๆ แต่ข้อเท็จจริงกลับเป็นว่า ในสังคมของคนที่เจริญแล้ว เขาจะต้องสำรวมระวังคำพูด การกระทำ และกิริยามารยาทต่าง ๆ อยู่เสมอ ยิ่งเป็นสังคมชั้นสูงมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องเคร่งครัดเท่านั้น และถ้าเป็นการสำรวมใจด้วยแล้วยิ่งสำคัญมาก เพราะคนที่เจริญแล้ว ต้องรู้จักสำรวม ควบคุมใจ ไม่ปล่อยไปตามอารมณ์ หรือสัญชาตญาณของตนเอง เพราะนั่นเป็นลักษณะดั้งเดิมของมนุษย์ที่ยังไม่มีการศึกษา ยังไม่ได้พัฒนา จึงซื่อสัตย์ต่ออารมณ์และความต้องการของตนถ่ายเดียว คนที่ขาดการสำรวมระวังตน จึงถือว่าเป็นคนทันสมัยไม่ได้แน่ ไม่ว่าจะพิจารณาในแง่ไหน ๆ

ธรรมะสอนใจ ตอน ภัย ๓ อย่าง


#ธรรมะสอนใจ ตอน ภัย ๓ อย่าง ...  มีคำที่ผู้หลักผู้ใหญ่สอนกันแต่โบราณว่า คนที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว หรือที่กำลังตั้งหลักฐานนั้น ถ้าหวังความสำเร็จอย่างแท้จริง นอกจากจะต้องมีความขยันหมั่นเพียร หนักเอาเบาสู้แล้ว จะต้องระวังภัย ๓ อย่าง คือ ภัยจากไฟไหม้ ภัยจากน้ำท่วม และ ภัยจากผีหลอก
        ความจริง คำสอนนี้เป็นเพียงปริศนา มิได้มุ่งให้ระวังไฟ ระวังน้ำ หรือระวังผีอย่างที่เข้าใจกันทั่วไป แต่ในที่นี้ ไฟหมายถึงบุหรี่ น้ำหมายถึงสุรา ผีหมายถึงการพนัน ท่านให้ระวังไฟไหม้ก็คือระวังโทษจากบุหรี่ ระวังน้ำท่วมก็คือระวังโทษจากสุรา และระวังผีหลอกก็คือระวังโทษจากการพนัน เพราะทั้ง ๓ อย่างนี้ซ่อนทุกข์โทษไว้นานัปการ เช่น เป็นเหตุให้เสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุ ภัยบางอย่างแม้จะดูว่าเสียทรัพย์ไม่มาก แต่ถ้าต้องเสียทุก ๆ วัน เงินทองที่หาได้ก็หมดไปโดยไม่จำเป็นทุกวันเช่นกัน เหมือนน้ำที่ซึมออกจากโอ่งรั่ว ถึงจะดูไม่มาก แต่ถ้าไหลซึมอยู่ตลอดไม่หยุด ไม่นานน้ำก็เกลี้ยงโอ่งได้ สำหรับภัยบางอย่างถึงแม้จะทำให้ได้ทรัพย์มาบ้างในเบื้องต้น แต่ก็มักจะลงท้ายด้วยการหมดเนื้อหมดตัวในที่สุด ที่สำคัญนอกจากเสียทรัพย์แล้ว ยังเป็นเหตุให้สุขภาพทรุดโทรม จิตใจก็ถูกครอบงำด้วยสิ่งที่เลวร้าย ครอบครัวก็อาจมีปัญหาเรื่องแตกแยกหรือขาดความอบอุ่น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

ธรรมะเรื่องล่าสุด

Recent Posts Widget