นิทานธรรมะ เรื่อง ฉลาด กับ เฉลียว
เมื่อกลับมาที่สำนักของอาจารย์ นายฉลาดได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ฟังในเชิงน้อยใจว่า อาจารย์ลำเอียงสอนวิชาให้นายเฉลียวมากกว่า อาจารย์จึงเรียกนายเฉลียวมาสอบสวน นายเฉลียวชี้แจงว่า ที่รู้ว่าช้างตาบอดข้างหนึง เพราะสังเกตุได้จากต้นไม้ใบหญ้าข้างทาง ถูกช้างน้าวกินเพียงด้านเดียว และที่รู้ว่า เป็นรอยปัสสาวะของหญิงมีครรภ์ ก็เพราะบริเวณรอบๆ มีรอยฝ่ามือทั้งสองข้างปรากฏอยู่ แสดงว่าหญิงคนนั้นใช้สองมือยันพื้น ช่วยพยุงตัวขณะลุกขึ้น
นิทานธรรมะเรื่องนี้ให้ข้อคิดว่า
ความฉลาดเป็นผลมาจากการอบรมศึกษา ก่อให้เกิดเป็นสัญญา คือ ความจำได้ หมายรู้ระยะสั้นๆ ทำให้มองสิ่งต่างๆ ได้อย่างเจาะจงและจำกัด แต่ความเฉลียวเป็นผลมาจากการพัฒนาสิ่งที่อบรมแล้ว ทำให้เกิดปัญญา ความรอบรู้ และญาณหยั่งรู้ระยะยาว สามารถมองสิ่งต่างๆ ในเชิงวิเคราะห์วิจัยได้อย่างสุขุมลุ่มลึก และคิดได้ครอบคลุมรอบด้าน ความฉลาดเปรียบได้กับมีไหวพริบปฏิพานดี แต่ความเฉลียวเป็นเครื่องเตือนสติ และเป็นตัวประคับประคองให้ไหวพริบปฏิพาน ดำเนินไปอย่างถูกต้อง ความฉลาดสามารถวัดระดับ เช่น ฉลาดน้อย ฉลาดมาก แต่ความเฉลียวไม่อาจวัดระดับได้ ตราบใดที่มีความเฉลียว ก็จะช่วยให้เกิดความฉลาดขึ้นได้ไม่มากก็น้อยตราบนั้น
ดังนั้น ไม่ว่าเฉลียวจะดีกว่าฉลาดในด้านใดหรืออย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า คนฉลาดต้องไม่ขาดเฉลียว คนเฉลียวต้องคิดวิเคราะห์อย่างฉลาด ยิ่งฉลาดมาก และเฉลียวมาก ชีวิตของคนๆ นั้น ย่อมเจริญรุ่งเรืองยาวนาน อย่างแน่นอน ....ติดตามเรื่องนิทานสั้นๆ ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิตกับ .... นิทานธรรมะบล็อก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น