การขับขี่ยานพาหนะ อย่างรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ในเวลากลางคืนนั้น สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะต้องมี คือ ไฟส่องสว่าง หรือไฟหน้านั่นเอง โดยทั่วไป สามารถปรับระดับได้ 2 ระดับ คือ ไฟสูงกับไฟต่ำ กรณีขับนำหน้ารถคันอื่น เพื่อความปลอดภัยก็ควรเปิดไฟหน้าให้เป็นไฟสูง เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยกเว้น เมื่อมีมีคันอื่นสวนทางมา ก็ควรปรับจากไฟสูงลงมาเป็นไฟต่ำ ส่วนคันที่ตามหลังมา ก็ได้อาศัยคันหน้านั่นแหล่ะ เป็นเครื่องสังเกตุ จึงควรเปิดไฟหน้าของตนให้เป็นไฟต่ำ เพื่อไม่ให้แสงพุ่งไปสะท้อนกระจกส่องหลังของคันหน้า สร้างความลำบากให้ผู้อื่น มารยาทดังกล่าวนี้ นอกจากจะอำนวยความปลอดภัยต่อการเดินทางแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความไม่พอใจระหว่างผู้ใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย
ในสังคมย่อมประกอบไปด้วย ผู้นำ และผู้ตามเสมอ ผู้นำจะต้องใช้ความรู้ ความสามารถที่มีอยู่มองให้เห็นปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหาได้กว้างไกลกว่าผู้ตาม เหมือนขับรถอยู่คันหน้าสุด ในที่มืดต้องใช้แสงสว่างให้มากที่สุดเท่าที่จะได้ ส่วนผู้ตามแม้จะมีความรู้ ความสามารถเท่าใดก็ควรใช้ให้อยู่ในขอบเขตแห่งตน พอเหมาะแก่เหตุผลและกาลเทศะ เหมือนขับรถอยู่ข้างหลัง แม้
จะมีทั้งไฟสูงและไฟต่ำเช่นคันหน้า แต่ก็ต้องรู้จักใช้เฉพาะโอกาสที่เหมาะสมและจำเป็นเท่านั้น
ความรู้ ความสามารถของคนเรานี้ แม้จะเป็นเรื่องดีมีค่า แต่ถ้าใช้ไม่ถูกจะก่อให้เกิดความขัดแย้งได้สูง ผลเสียอย่างอย่างต่ำที่สุด ก็ทำให้หมดเวลาไปกับการรบพุ่งทางความคิด จะเดินไปได้ไม่ถึงไหน แต่ถ้าใช้ให้ถูก ก็จะเป็นเครื่องส่องส่วางที่มีค่ามาก เปรียบเสมือนไฟหน้ารถในเวลากลางคืนนั่นแหล่ะ ถ้าเปิดไฟสูง-ไฟต่ำได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ก็จะปลอดภัยและดีกับทุกฝ่ายทั้งคันหน้า(ผู้นำ) และคันหลัง (ผู้ตาม) จริงมั้ยครับ....
....ติดตามนิทานธรรมะในแบบนิทานสั้นๆ ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิต
ในตอนต่อไปกับ .... นิทานธรรมะบล็อก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น