แนะนำ! บทความธรรมะอ่านมากที่สุดตอนนี้

"นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ เรื่อง ไก่ขัน"


นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ เรื่อง ไก่ขัน
โดย นิทานธรรมะบล็อก!

   มีครอบครัวไก่อยู่ครอบครัวหนึ่ง ประกอบด้วย พ่อไก่ แม่ไก่ และลูกไก่ตัวผู้อีกตัวหนึ่ง ในแต่ละวันไก่หัวหน้าครอบครัวตึ่นขึ้นมาก็ทำหน้าที่ขันทุกวัน พอขันเสร็จสักครู่ใหญ่ก็เห็นดวงอาทิตย์ขึ้น ทำให้พ่อไก่เข้าใจว่า "ดวงอาทิตย์ขึ้นเพราะเสียงขันของตน" เมื่อมีความเข้าใจเช่นนั้น ก็เกิดความอวดดีและถือตัว คิดว่า ถ้าเราไม่ทำหน้าที่ขัน ดวงอาทิตย์ก็ไม่ขึ้น สัตว์ทั้งหลาย รวมถึงมนุษย์ก็จะอยู่ไม่ได้ เราเป็นผู้สำคัญที่สุด โลกนี้ขาดเราไม่ได้ อยู่มาวันหนึ่ง ด้วยความชราภาพตามเวลา พ่อไก่ที่เต็มไปด้วยความอวดดีและถือตัว ก็ตื่นขึ้นมาขันเหมือนเช่นทุกวัน แต่พอจะขยับปีก ทำท่าจะขันก็ตกลงจากคอนไม้ ลูกไก่โต้งซึ่งบัดนี้ โตเป็นไก่หนุ่ม พอจะขันได้ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ขันซักครั้ง เพราะพ่อห้ามไว้ เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น จึงอาสาทำหน้าที่ขันแทนพ่อไก่ แต่ก็ถูกห้ามไว้อีกว่า "ลูกเป็นใคร นึกหรือว่าลูกขันแล้วดวงอาทิตย์จะขึ้น" ว่าแล้วพ่อไก่ก็แข็งใจกระโดดขึ้นกิ่งไม้ แล้วก็พลัดตากลงพื้นอีกรอบ ในที่สุด เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ไหว จึงเรียกลูกไก่ แม่ไก่มาสั่งให้รีบหนีเอาตัวรอด เพราะเข้าใจผิดคิดว่าถัาตัวเองขันไม่ได้แล้ว ดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้น สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้จะต้องตายหมด

นิทานธรรมะ เรื่อง อาจารย์สอนศิษย์



   มีเรื่องเล่าว่า อาจารย์คนหนึ่งชวนลูกศิษย์เดินไปตามชายหาด ช่วงหนึ่งของการสนทนา อาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นลงไปบนผืนทราย เป็นเส้นคู่ขนาน ยาว ๕ ฟุต และ ๓ ฟุต ตามลำดับ อาจารย์กล่าวว่า "เธอลองทำให้เส้น ๓ ฟุต ยาวกว่าเส้น ๕ ฟุต ให้ดูหน่อยสิ" ลูกศิษย์หยุดคิดครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจลบรอยเส้นที่ยาว ๕ ฟุตนั้น ให้สั้นลง จนเหลือเพียง ๑ ฟุต จึงทำให้เส้น ๓ ฟุต โดดเด่นขึ้นมา แล้วศิษย์ก็สบตาอาจารย์พลางขอความเห็นว่า "เช่นนี้ ใช้ได้หรือยังครับ"
   อาจารย์เขกหัวศิษย์เบาๆ แล้วบอกว่า "การที่คิดจะยกตนเองให้สูง โดยการทำร้ายคู่แข่งนั้น ไม่ใช่วิธีทีดี ดังนั้น ถ้าเลือกใช้วิธีนี้ ชีวิตเธอก็มีแต่จะล้มเหลว ไม่พัฒนา ทางทีดีควรเลือกวิธีที่จะยกตัวเองขึ้น โดยไม่ไปลดคนอื่นลง" แล้วอาจารย์ก็สาธิตให้ดูด้วยการขีดเส้น ๓ ฟุต ให้ยาวขึ้นเป็น ๑๐ ฟุต แล้วกล่าวอีกว่า "จงอย่าคิดว่าคู่แข่งของเธอคือศัตรู แต่ให้คิดว่าเป็นครูของเธอ ที่เธอจะต้องพัฒนาตนเองให้เทียบเท่าหรือดีกว่า เขาคือคนสำคัญที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้า ได้อย่างสง่างาม หากไร้คู่แข่ง แล้วเราจะได้รู้ว่า ตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหน นักสู้ทีดีมักชื่นชมคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็ง เพราะคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอ จะทำให้ชัยชนะของเขาไม่สง่างาม ดังนั้น เมื่อได้พบกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง และฉลาดล้ำ ก็ให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไปให้สูงส่งยิ่งขึ้น"

"นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ เรื่อง สามัคคีธรรมนำสุข"



นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ เรื่อง สามัคคีธรรมนำสุข
โดย นิทานธรรมะบล็อก
     มีเรื่องเล่าในคัมภีร์ว่า  หลังจากถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้าสรีระแล้ว เจ้านครน้อยใหญ่รวม ๗ แห่ง ได้พากันส่งคณะทูตมาเพื่อขอแบ่งพระบรมสารีริกธาต พวกเจ้ามัลลกษัตริย์ ซึ่งปกครองเมืองกุสินารา สถานที่ถวายพระเพลิงพระเพลิงพระพุทธสรีระ ไม่ยอมแบ่งให้ ได้ตอบปฏิเสธอย่างแข็งขัน โดยอ้างเหตุผลว่า พระพุทธเจ้านิพพานที่เมืองของตน พระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นสมบัติของเมืองกุสินาราเท่านั้น เมื่อเจ้ามัลลกษัตริย์ไม่ยอมแบ่งให้ เจ้านครทั้ง ๗ แห่ง จึงได้กรีกรีฑาทัพมาเพื่อหวังจะแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ  ครั้งนั้น ได้มีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อว่า "โทณะ" เป็นคนเฉลียวฉลาดในการเจรจามธุรภาษิต  และเป็นที่เคารพนับถือของบรรดาเจ้านครน้อยใหญ่เหล่านั้น ได้ปราศัยในที่ประชุมในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน ความตอนหนึ่งว่า "พระพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงสรรเสริญขันติธรรม และสามัคคีธรรม แล้วเราทั้งหลายจะมาทะเลาะวิวาท ทำสงครามกัน เพราะพระบรมสารีริกธาตุเป็นเหตุทำไม มาแบ่งกันให้ได้เท่าๆ กัน ดีกว่า พระบรมสารีริกธาตุ จักได้แพร่หลายไปทั่วทุกทิศและเป็นประโยชน์แก่มหาชนทั่วโลก"

นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ เรื่อง ทุกข์ซ่อนรูป


 นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ เรื่อง ทุกข์ซ่อนรูป

นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ เรื่อง ทุกข์ซ่อนรูป

  มีเรื่องเล่าในสมัยพุทธกาลว่า พระนางสุปปวาสา พระธิดาในตระกูลโกลิยวงศ์  ทรงพระครรภ์อยู่นานถึง ๗ ปี เจ็บพระครรภ์อยู่นานถึง ๗ วัน แม้ทรงได้รับความทุกข์ทรมานมากขนาดนั้น แต่ก็ทรงอดกลั้น ด้วยการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย และระลึกถึงคุณแห่งพระนิพพาน เมื่อยังไม่เห็นว่าจะคลอดง่ายๆ พระนางเกรงว่าอาจจะสิ้นพระชนม์ไปก่อน จึงขอร้องให้พระสวามีไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อกราบทูลให้ทรงทราบ พระพุทธองค์ทรงประทานพรว่า ขอให้พระนางมีพระประสูติกาลโดยปลอดภัยและมีความสุข เมื่อพระสวามีกลับมาก็พบว่า พระนางมีพระประสูติกาลแล้ว วันรุ่งขึ้น พระพุทธองค์พร้อมหมู่สงฆ์เสด็จไปเสวยที่นิเวศของพระนางสุปปวาสาแล้ว จึงตรัสถามว่า ทรงพระครรภ์นานถึง ๗ ปี เจ็บพระครรภ์นานถึง ๗ วัน ทุกข์ทรมานมากเช่นนี้ ยังจะต้องการบุตรอีกหรือไม่ พระนางกราบทูลว่า ถ้าจะมีอีกซัก ๗ ครั้ง ก็ยินดี พระพุทธองค์จึงเปล่งอุทานในเวลานั้นว่า "สิ่งที่ไม่น่ายินดีมักมาในรูปของสิ่งที่น่ายินดี สิ่งที่ไม่น่ารัก มักมาในรูปของสิ่งที่น่ารัก และทุกข์มักมาในรูปแห่งสุข เพราะฉะนั้น คนจึงประมาทกันนัก" และในเวลาต่อมา พระโอรสของพระนางสุปปวาสานี้เอง ได้ออกผนวชมีนามว่า พระสีวลี ได้รับการยกย่องว่าเป็นเลิศในทางผู้มีลาภมากกว่าใครๆ เพราะได้ทำบุญไว้ในอดีตชาตินั่นเอง

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

ธรรมะเรื่องล่าสุด

Recent Posts Widget