คำว่าโลก แปลว่าสิ่งที่จะต้องเสื่อมสลายไป ในทางธรรมแบ่งไว้ ๓ ประเภท คือ สังขารโลกหนึ่ง โลกคือสังขาร ได้แก่สิ่งที่เกิดจากการปรุงแต่ง เช่นร่างกายและจิตใจ สัตว์โลกหนึ่ง โลกคือหมู่สัตว์ ได้แก่มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย และโอกาสโลก โลกคือแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ ที่ว่าโลกร้อนนั้นมิใช่เฉพาะโลกคือแผ่นดินที่อาศัยอยู่นี้เท่านั้น แต่โลกคือสังขารและโลกคือหมู่สัตว์ แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาทางด้านอุณหภูมิอย่างที่เกิดในปัจจุบัน แต่เมื่อตกอยู่ในภาวะที่จะต้องเสื่อมสลายไม่เที่ยงแท้ ก็กลายเป็นเรื่องที่กระทบต่อชีวิต ถ้าบริหารจัดการไม่ดี จะทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่าร้อนยิ่งไปกว่าเรื่องโลกร้อนที่กำลังวิตกกันอยู่นี้เสียอีก รวมความว่าโลกทั้ง ๓ นี้ ทางศาสนาถือว่าเป็นปัญหาที่ต้องบริหารจัดการด้วยกันทั้งสิ้น มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นโลกร้อนขึ้นได้
วิธีบริหารจัดการโลกนั้น หากเป็นสังขารโลก ท่านสอนให้รู้เท่าทันความเป็นไปของมัน พยายามถอนความยึดมั่นถือมั่นเสียบ้าง จึงจะคลายทุกข์คลายร้อนได้ หากเป็นสัตว์โลก ท่านสอนให้มีเมตตาธรรมมีความรักใคร่ปรารถนาดีเป็นเครื่องป้องกันความเร่าร้อนวุ่นวายในการอยู่ร่วมกัน ในส่วนของโอกาสโลก ที่กำลังมีอุณหภูมิสูงขึ้นทุกทีนั้น เมื่อสาเหตุหลักมาจากการกระทำของคน การบริหารจัดการ จึงขึ้นอยู่กับทุกคนที่จะต้องให้ความร่วมมือในมาตรการต่าง ๆ เช่น การใช้พลังงานอย่างประหยัด และหยุดการสร้างมลพิษ เป็นต้น หากทำได้ก็จะเป็นการชะลอความเสื่อมสลายและความร้อนของโลกได้อย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น