๑. ลีลาชีวิตในประถมวัย เป็นระยะที่ต้องเน้นบทบาทหน้าที่ไปในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน จึงต้องขวนขวายหาความรู้ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการทิ้งความรู้ก็คือการทิ้งสมบัติภายในที่สามารถนำไปใช้สอยได้ตลอดชีวิต
๒. ลีลาชีวิตในมัชฌิมวัย ต้องให้ความสำคัญกับการประกอบหน้าที่การงานโดยอาศัยทั้งความรู้ที่ศึกษาเล่าเรียนมา และไหวพริบปฏิภาณ รวมทั้งกำลังกาย และกำลังใจที่กำลังอยู่ในระยะเข้มแข็งสมบูรณ์เต็มที่ เป็นเครื่องมือ
๓. ลีลาชีวิตในปัจฉิมวัย ต้องเก็บเกี่ยวบุญกุศลและความสงบร่มเย็นให้แก่ตนเอง เผื่อแผ่ความดีงามให้แก่ผู้อื่น และวางตัวให้สมเป็นปูชนียบุคคลของคนรุ่นหลัง
อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่า ถ้ายังเด็กอยู่จะทำบุญกุศลไม่ได้ ถ้ายังอยู่ในวัยทำงานจะศึกษาเล่าเรียนไม่ได้ เพียงแต่ต้องไม่ทิ้งหลักใหญ่ที่ควรยึดไว้เป็นเป้าหมายชีวิตในแต่ละช่วงจังหวะ มิฉะนั้น ท่วงทำนองหรือการกระทำนั้นก็จะเป็นลีลาที่ผิด รวมถึงผิดเวลา อันเป็นการทำให้ชีวิตพลาดจากประโยชน์ไปอย่างน่าเสียดาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น