ในระดับการครองชีวิตของปุถุชนก็มีหลายเรื่องที่ชวนให้คิดว่าเดินถูกทาง บางครั้งก็ด้วยเหตุผลว่าเมื่อทำแล้ว สนุก เพลิดเพลิน ลืมความทุกข์เสียได้ ดูคล้าย ๆ กับว่าเป็นคุณแก่ชีวิต เช่นการหมกมุ่นในอบายมุข ได้แก่ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการละเล่น เล่นการพนัน ติดพันเพื่อนชั่ว ทำตัวเกียจคร้าน แม้บางครั้งจะรู้ว่าไม่ดี แต่อีกใจหนึ่งก็ยังคิดว่าไม่เป็นไร แค่นิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น สุดท้ายก็ถลำลึกจนชีวิตตกอับ ครอบครัวล่มสลาย ตัวอย่างเช่นนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไป
การครองชีวิตอย่างชาวบ้านให้เป็นสุข ถ้าจะเทียบกันแล้วง่ายกว่าการแสวงหาพระโพธิญาณตั้งหลายร้อยหลายพันเท่า แค่ตัดขาดอบายมุขให้ได้ก็แทบจะพูดได้ว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ผู้ที่ยังลังเลอยู่จึงควรตัดใจเสียให้เด็ดขาด ยับยั้งถอยห่างออกมาจากอบายมุขนั้นเถิด เหมือนเมื่อรู้ว่าเดินผิดทางแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเดินต่อไป ถอยกลับเสียดีกว่า ดังที่พระพุทธองค์ทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่างมาแล้ว
..ติดตามอ่าน นิทานธรรมะ ในแบบนิทานสั้นๆ ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิต อ่าน นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น