การมัวแต่ไปกล่าวโทษคนอื่น เมื่อเกิดความผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นในชีวิต อาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่นั่นไม่ใช่วิธีแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกลับทำให้เกิดปัญญหาบานปลายยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถสรุปผลเสียได้เป็น ๔ ข้อ คือ
๑. เสียเพื่อน การกล่าวโทษผู้อื่นนั้น เป็นการป้ายความผิดให้แก่กัน ถึงแม้เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องจริงก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดความไม่พอใจ เป็นทางก่อเวรขึ้นได้
๒. เสียความกล้าหาญ บากบั่น ผุ้ที่มักกล่าวโทษผู้อื่น ชื่อว่าเป็นผู้สั่งสมนิสัยความเป็นคนอ่่อนแอขึ้นในตัว ไม่กล้าหาญยอมรับผิดหรือพยายามบากบั่น หาวิธีแก้ไข
๓. เสียกริยาวาจา การกล่าวโทษคนโน้นคนนี้ที เป็นการสร้างนิสัยความเป็นคนจุกจิก ขี้บ่น และวาจาทุพภาษิตต่างๆ ทำให้เป็นคนขาดความน่าเชื่อถือในคำพูด
๔. เสียเวลา การมัวแต่โทษคนอื่น พยายามหาคนผิด ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ยิ่งมัวแต่หาคนผิด โทษคนอื่นนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เวลาที่เหลือสำหรับแก้ปัญหาหมดไปเร็วเท่านั้น
ดังนั้น เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นในชีวิตหรือกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่ควรปัดความรับผิดชอบด้วยการโทษคนโน้นคนนี้ แต่ควรรีบหาสาเหตุที่แท้จริงและวิธีแก้ปัญหาในโอกาสแรก แทนการเพิ่มปัญหา เรียกว่าแก้ได้ตรงจุด แล้วอาการที่เรียกว่า เกาผิดที่คัน ก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
..ติดตามอ่าน นิทานธรรมะ ในแบบนิทานสั้นๆ ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิต อ่าน นิทาน ธรรมะ คติ สอน ใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น