นิทานธรรมะ ตอน ปฏาจารา
(ผู้ที่เจอปัญหาชีวิตแสนสาหัส...แต่ผ่านพ้นมาได้)
นิทานธรรมะ นำเสนอนิทานธรรมะสั้นๆ มีคติสอนใจ เป็นกำลังให้กับทุกๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่มีกำลังพบเจอมรสุมชีวิตรุมเร้า มองไม่เห็นทางออก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชีวิต ปัญหารัก ปัญหาครอบครัว ปัญหาเรื่องปากท้อง นิทานธรรมะบล็อก อยากบอกว่า ทุกๆ ปัญหามีทางออกเสมอ ขอเพียงเราใช้สติไตร่ตรองให้ดี พินิจพิเคราะห์ แล้วค่อยๆ แก้ไขปัญหาไปทีละอย่าง ไปทีละขั้น ปัญหานั้นๆ จะผ่านไปได้ด้วยดี จากหนักอาจกลายเป็นเบา จากเบาเป็นหมดปัญหาไปเลยก็มี โดยนิทานธรรมะในวันนี้ นำเสนอในตอน ปฏาจารา นางต้องเจอกับปัญหาชีวิตรุมเร้าหลายๆ ด้าน จิตใจบอบซ้ำเป็นที่สุด นางต้องเป็นคนเสียสติ แต่ท้ายที่สุดแล้วพระพุทธองค์ได้แสดงธรรมโปรด สุดท้ายก็บรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระอรหันต์ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามได้เลย กับ นิทานธรรมะคติสอนใจ เรื่อง ปฏาจาราปฏาจารา เป็นธิดาของเศรษฐีผู้มีสมบัติ ๔๐ โกฏิ มีรูปงาม ตระกูลสูง แต่พบรักกับหนุ่นรับใช้ในบ้าน และหนีออกไปครองรักกันสองคน ใช้ชีวิตด้วยการทำไร่ไถนา เก็บผักหักฟืน แม้จะยากลำบากแต่ก็มีความสุข จนกระทั่งมีลูกคนหนึ่ง
เมื่อตั้งครรภ์ครั้งที่สองและใกล้คลอด นางอ้อนวอนให้สามีพากลับไปหาพ่อแม่ แต่ถูกห้ามจึงพาลูกน้อยหนีไปตามลำพัง สามีตามมาทันเมื่อพลบค่ำ ระหว่างนั้น พายุฝนได้กระหน่ำลงมาอย่างหนัก นางเจ็บท้องใกล้คลอดอย่างกะทันหัน สามีจึงฉวยมีดวิ่งออกไปหาตัดกิ่งไม้มาทำที่พักชั่วคราว ขณะตัดไม้ เขาถูกงูพิษกัดจนสิ้นชีวิตลง ฝ่ายนางปฏาจาราก็คลอดบุตรคนที่สองอย่างทุกข์ทรมาน ทารกทั้งสองถูกพายุฝนพัดกระหน่ำจนนางไม่อาจทนรอสามีต่อไปได้ จึงกอดลูกทั้งสองไว้มือหนึ่งแล้วคลำทางไปในป่า ตามหาสามีท่ามกลางราตรีมืดมิดและพายุฝนที่บ้าคลั่ง พอสว่างจึงพบร่างไร้วิญญาณของสามี
แม้จะประสบทุกข์อย่างสาหัส นางก็ยังสู้นำลูกน้อยทั้งสองมุ่งหน้าต่อไป ถึงแม่น้ำอจิรวดีซึ่งลึกระดับอก ไม่สามารถพาลูกข้ามไปพร้อมกันได้ จึงพักลูกคนโตไว้ฝั่งนี้ อุ้มคนเล็กข้ามไปฝั่งโน้น วางไว้ แล้วย้อนกลับมารับอีกคนหนึ่ง ขณะที่กลับมาถึงกลางแม่น้ำนั่นเอง เหยี่ยวตัวหนึ่งก็โฉบเอาลูกที่เพิ่งคลอดไป นางตกใจแทบสิ้นสติ ยกมือขึ้นโบกและตะโกนไล่สุดเสียงแต่ก็ไม่สำเร็จ ฝ่ายลูกคนโตเห็นกิริยาดังนั้นก็สำคัญไปว่าแม่ร้องเรียก ด้วยความไม่เดียงสาจึงเดินลงน้ำไปหาแม่และถูกกระแสน้ำพัดหายไปอีกคนหนึ่ง
ชีวิตของนางไม่เหลืออะไรอีก กัดฟันมุ่งสู่บ้านเกิดเพื่อเป็นที่พึ่งสุดท้าย พบชายคนหนึ่งเดินสวนทางมา เมื่อสอบถามจึงรู้ว่าพายุใหญ่เมื่อคืนนี้ได้พัดถล่มบ้านเกิดของนางจนพินาศ พ่อแม่และพี่ชายเสียชีวิตลงพร้อมกันทั้งหมด ทันทีที่ได้ฟังข่าวร้าย สติสัมปชัญญะอันเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็ขาดสะบั้นลง ณ บัดนั้น นางกลายเป็นคนเสียสติ เดินเปลือยกาย หัวเราะ ร้องไห้ เพ้อรำพัน ซมซานไปตามถนนเป็นที่รังเกียจสมเพชแก่ผู้พบเห็น จนถึงเชตวันมหาวิหาร
พระพุทธเจ้าประทับนั่งในท่ามกลางพุทธบริษัท ทอดพระเนตรเห็นนางผู้บำเพ็ญบารมีมาตลอดแสนกัป ผู้จะได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ จึงตรัสเรียกให้นางได้สติ แสดงธรรมโปรดจนหายเศร้าโศกและขอบวชในพระพุทธศาสนา ได้รับยกย่องว่าเป็นพระเถรีผู้เชี่ยวชาญแตกฉานในด้านพระวินัยในเวลาต่อมา
เรื่องนี้ ไม่มีบทสรุป แต่สำหรับผู้ที่คิดว่ากำลังประสบกับมรสุมชีวิตอยู่ อาจได้ข้อคิดอะไรบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น