สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ในทางหลักธรรมมิได้ระบุว่าอยู่ในวัตถุมงคลชนิดใด แต่เมื่อพูดถึงอำนาจหรือพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนแล้ว คงไม่มีความศักดิ์สิทธิ์อันใดที่ยิ่งใหญ่กว่าความศักดิ์สิทธิ์ของกรรมไปได้ เพราะกรรมคือการกระทำนี้มีพลังที่ส่งผลมาก ถ้ากระทำดีก็ส่งผลให้ชีวิตดีขึ้น ถ้ากระทำชั่วก็ส่งผลให้ชีวิตเสื่อมลง เป็นข้อเท็จจริงที่แน่นอนและตรงไปตรงมา การประสบทุกข์โศกโรคภัยหรือสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ก็ดี การจะอยู่รอดปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้ก็ดี แท้จริงแล้วมาจากการกระทำของตนเป็นสำคัญ และอำนาจของกรรมนั้นอยู่เหนืออำนาจหรือพลังใด ๆ ทั้งสิ้น แม้แต่วัตถุมงคลที่ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ก็ยังอยู่ภายใต้อำนาจของกรรม เห็นได้จากผู้ที่ก่อกรรมทำชั่วไว้ ถึงจะมีวัตถุมงคลห้อยอยู่เต็มคอ ก็ไม่อาจช่วยปกป้องคุ้มครองชีวิตตนได้ ส่วนคนที่กระทำแต่คุณงามความดี ถึงไม่มีวัตถุมงคลอะไรเลย ชีวิตก็ดำเนินไปได้โดยสวัสดิภาพ
เมื่อกรรมมีความศักดิ์สิทธิ์ การมุ่งทำดีก็คือการทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เกิดมีกับตน จะติดตามคุ้มครองตนไปได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ปุถุชนทั่วไปย่อมมีโอกาสเผลอไผลไปในทางชั่วได้ จึงมีการแขวนพระเครื่องไว้เพื่อเตือนใจให้นึกถึงพระพุทธคุณเป็นต้น แล้วจะได้ตั้งสติประพฤติตนเสียใหม่ โดยที่เคยคิดผิด พูดผิด ทำผิด ก็ให้คิดถูก พูดถูก ทำถูกเสียใหม่ ดังนั้น การแขวนพระเครื่องมิใช่เพื่อมุ่งหวังความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องเท่านั้น แต่เพื่อให้ระลึกรู้ถึงคุณพระรัตนตรัยแล้วยึดเป็นหลักปฏิบัติสำหรับตน จะส่งผลช่วยให้พ้นทุกข์ประสบสุขได้จริง .... นิทานธรรมะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น