มีเรื่องเล่าว่า ในงานฉลองมงคลสมรสงานหนึ่ง พ่อของเจ้าสาวได้ให้โอวาทวิธีการครองชีวิตสมรสให้ยืนยาวและเป็นสุข โดยพูดความตอนหนึ่งว่า “เจ้าสาวที่คิดว่ายอดเยี่ยมที่สุดนี้ เมื่ออยู่ด้วยกันระยะหนึ่ง ก็จะเริ่มเห็นข้อบกพร่องในตัวเธอ และเมื่อใดที่เริ่มสังเกตเห็นข้อบกพร่องนั้น ขอให้เจ้าบ่าวจดจำไว้ว่า ถ้าเจ้าสาวไม่ได้มีข้อบกพร่องเหล่านั้นมาตั้งแต่เริ่มแรก เขาก็คงได้สามีที่ดีกว่าเจ้าบ่าวไปตั้งนานแล้ว”
ผู้คนรู้สึกประหลาดใจกับโอวาทดังกล่าว เพราะโดยปกติเขามักจะแนะนำด้วยถ้อยคำที่ไพเราะเสนาะหู ฟังแล้วเกิดกำลังใจ เช่น ให้มีความจริงใจต่อกัน ให้เอาใจกัน ให้เข้าใจกัน และให้ไว้ใจกัน เป็นต้น แต่ถ้าพิจารณาให้ถี่ถ้วนก็จะพบคุณค่าในคำแนะนำของพ่อเจ้าสาวข้างต้น กล่าวคือ คนเราทุกคนจะมีสองด้านเสมอ ได้แก่ด้านดีกับด้านเสีย ในเวลาคบกันใหม่ ๆ นั้น ต่างฝ่ายมักจะแสดงแต่ด้านดีต่อกันและปกปิดด้านเสียไว้ แต่เมื่อใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ แล้ว ก็มักจะปกปิดด้านเสียไว้ไม่ได้ การแนะนำให้ตระหนักด้านที่ไม่ดีให้ทราบตั้งแต่แรกนั้น จึงเป็นเรื่องดี เพราะจะได้รู้เท่าทันความจริงในธรรมชาติของคน แล้วหาทางแก้ไขในทางที่เหมาะที่ควร อันจะช่วยให้การครองชีวิตนั้นเป็นสุขอย่างยั่งยืนได้ ทำได้อย่างนี้ความบกพร่องก็เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความสมบูรณ์ เข้าทำนองพลิกวิกฤตเป็นโอกาส
โอวาทข้างต้นไม่ได้จำเป็นเฉพาะคู่สมรสบ่าวสาวเท่านั้น แต่ในการปฏิบัติงานและในสังคมทั่วไปก็จำเป็นไม่แพ้กัน เพราะโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์ไปทุกอย่าง และหลักคิดนี้จะช่วยให้เรามีชีวิตที่สมบูรณ์ขึ้นได้ในท่ามกลางของสิ่งที่ไม่สมบูรณ์นี้แหละ... นิทานธรรมะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น