ก่อนที่จะทราบความหมายของคำตอบนั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่า มนุษย์เกิดมาแล้วในโลกนี้ นอกจากจะต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ ตามเส้นทางคมนาคมทางบก ทางเรือ ทางอากาศแล้ว ยังมีเส้นทางชีวิต ที่จะต้องเดิน อยู่อีกถึง สามสาย พระพุทธองค์ ได้ตรัส บอกเส้นทาง เหล่านั้น ไว้ว่า
ทางสายที่หนึ่ง ชื่อ กามสุขัลลิกานุโยค เดินง่าย สะดวก และเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย เน้นความสนุก เพลิดเพลิน หมกมุ่นอยู่กับการกิน การดื่ม เสพสุข ทางกามารมณ์ แต่แล้วสุดสายปลายทางก็เป็นทุกข์ เดือดร้อนชีวิตไร้สาระแก่นสาร มีปัญหาตามมามากมาย
ทางสายที่สอง ชื่อ อัตตกิลมถานุโยค เดินลำบาก เป็นทุกข์ ทรมาน เป็นการใช้ชีวิตอย่างฝืดเคืองอดอยาก ตั้งเงื่อนไขให้แก่ชีวิตมากมาย จนแทบจะหาความสุขไม่ได้ ชีวิต เป็นไป ตรงกันข้าม กับเส้นทาง สายที่หนึ่ง
ทางสายที่สาม ชื่อ มัชฌิมาปฏิปทา คือเส้นทางที่มีความพอดี ดำเนินไปตามหลักสัมมาปฏิบัติคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ชีวิตจะประสบความสุขที่แท้จริง เจริญรุ่งเรืองและพ้นทุกข์ได้ในที่สุด
คำว่าไม่ทราบของเด็กหญิงคนนี้หมายถึงว่า เธอไม่ทราบว่าชีวิตของเธอมาจากไหน จะไปเกิดที่ไหนอีก ก็เช่นเดียวกับมนุษย์ทั่วไปที่ไม่อาจทราบถึงอดีตชาติและอนาคตที่ยังมาไม่ถึง สิ่งเดียว ที่มนุษย์ เรา ทำได้ดี ที่สุด ก็คือ การดำเนิน ชีวิต ในปัจจุบัน ให้อยู่ บนเส้นทาง ที่ ๓ อันประกอบด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา ถ้าทำได้ แม้จะไม่ทราบถึงอดีต และอนาคต เลยก็ไม่ใช่เรื่อง เสียหาย ... นิทานธรรมะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น