แต่ยังมีการประกันชีวิตที่ดีกว่านั้น ก็คือการประกันชีวิตด้วยคุณธรรม เป็นวิธีการทางธรรม ทำให้ชีวิตมีความมั่นคง เป็นสุข และก้าวหน้าอย่างแท้จริงโดยการสร้างหลักประกัน ๓ อย่างขึ้นในตัวเอง คือ
๑. ศีล ฝึกหัดและควบคุมคำพูด การกระทำ ให้อยู่ในกฎหมายและศีลธรรม เป็นหลักประกันว่า จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองและผู้อื่น
๒. สมาธิ ฝึกหัดและควบคุมจิตใจให้มั่นคง ไม่ฟุ้งซ่าน เลื่อนลอยไปตามเหตุการณ์และอารมณ์อย่างไร้จุดหมาย เป็นหลักประกันว่า จะมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์ฝ่ายต่ำ มีพลังที่จะนำชีวิตก้าวไปสู่จุดหมายอย่างไม่ย่อท้อ
๓. ปัญญา พัฒนาความคิดจนเข้าใจในเหตุและผล ไม่ติดอยู่แค่เรื่องที่เห็น ประเด็นที่เกิด แต่เข้าไปสัมผัสจนถึงความเป็นจริงที่มีอยู่ในสิ่งนั้น ๆ เป็นหลักประกันว่า การแก้ปัญหาและการสร้างสรรค์ทั้งหลาย จะถูกตรงต่อเนื้อแท้ ไม่ผิดพลาด และวางท่าทีต่อสิ่งทั้งหลายในโลกได้อย่างชาญฉลาด ไม่เกิดทุกข์
ถ้าจะประกันชีวิตตามกรมธรรม์ ก็เป็นสิ่งดี เพราะทำให้ได้รับประโยชน์เมื่อเกิดอันตรายหรือเสียชีวิตแต่ต้องคิดด้วยว่าขณะที่ยังไม่เจ็บ ไม่ตาย คือตอนที่ยังดี ๆ อยู่นี่แหละ หากเราได้ทำประกันสำหรับชีวิตจริง ๆ ให้กับตัวเองแล้ว รับประกันว่าชีวิตของเราจะมั่นคง เป็นสุข ไม่ตกลงไปที่ชั่วอย่างแน่นอน และเมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็จะได้รับความคุ้มครองตลอดไป ถ้ายังไม่ได้ทำ ขอได้โปรดพิจารณาหลักประกันทั้ง ๓ ข้อข้างต้นเถิด ... นิทานธรรมะบล็อก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น